เส้นทางการเป็นนักดนตรีของหนุ่ม Nikki Sudden

                เมื่อตอนนิคกี้ยังเด็ก เขามีนิสัยเกเรตามประสาของเด็กผู้ชายทั่วไป เขาชื่นชอบกิจกรรมที่ผจญภัย เหมือนเด็กผู้ชายคนอื่นๆ เขาไม่เคยมีความฝันว่าอยากเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง หรือแม้แต่คิดอยากจะเล่นเครื่องดนตรีสักชิ้น แต่ด้วยพรสรรค์ พระเจ้าสร้างเขามาทางนี้ ช่วงหนึ่งของชีวิตเขา เขาได้ทำกิจกรรมที่เขารัก นั่นก็คือการเดินป่า เขาท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง เขามีความสุขกับการเดินป่า เขาร้องเพลงไปพลางๆ กับการเดินท่ามกลางต้นไม้ ใบหญ้า เขาร้องเพลงออกมาด้วยความสุข เมื่อเขาร้องบ่อยๆ ขึ้น เขาก็ได้ทราบว่าตัวเองมีความสามารถในการร้องเพลง จนวันหนึ่งที่เขาได้พบกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นคนที่ส่องทางให้กับเขาเลยก็ว่า อาจารย์ท่านนี้ได้ทราบว่านิคกี้มีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง เขาแนะนำให้นิคกี้ไปประกวด ซึ่งขณะนั้นนิคกี้เองก็ไม่ได้อคติอะไร เขาทำตามคำแนะนำของอาจารย์ เขาได้รับรางวัลมามากมายในการประกวดแต่ละครั้ง แล้วเขาก็พบว่าเขามีความสุข เขารู้สึกรักกับการเป็นนักร้อง เขาจึงได้พัฒนาความสามารถของเขาในหลายๆ ด้าน ทั้งแต่งเพลง ร้องเพลง และเล่นกีต้า

หนุ่มนิคกี้เคยเป็นนักร้องนำและเป็นมือกีต้าอยู่ในวง Swell Maps ซึ่งเป็นวงดนตรีแนวร็อค ที่มีชื่อเสียงมากในอังกฤษ ชื่อเสียงของเขาเริ่มโด่งดังจากตรงนี้ แต่ในขณะนั้นไม่ได้มีเพียงแค่วง Swell Maps เพียงวงเดียวที่เป็นวงพังค์หรือร็อค จะมีนอกเหนือเช่น วง Buzzcocks และ Desperate Bicycles ซึ่งวง Swell Maps hawaiian shirt นี้มีค่ายเพลงชื่อ Rather Records. ใน พ.ศ. 2520  พวกเขามีผลงานเพลงออกมา 4 เพลง คือ Dresden Style, Real Shocks, Let’s Build a Car และ Forest Fire หลังจากที่ปล่อยเพลงออกมาได้ไม่นานผลงานเพลงทั้งหมดของเขาติดชาร์ตขึ้นอันดับต้นๆ แถมยังได้รับการยกย่องว่าเป็น  A Trip to Marineville จากนั้นมาเรื่อยๆ วง Swell Maps ก็ได้สร้างผลงานมาจนกระทั่ง 2 ปี ให้หลังวงนี้ถูกยุบลงด้วยสาเหตุหลายอย่าง หนุ่ม Nikki Sudden ได้ออกมาทำอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของเขา ชื่อว่า Waiting on Egypt จากนั้นในปี พ.ศ. 2527 เขาได้ร่วมกับ Epic Soundtracks โดยมีมือกีต้าจากวง The Jacobites มีชื่อว่า Dave Kusworth หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้สร้างผลงานร่วมกันมากมาย ยุคนั้นถือเป็นยุคทองของวงร็อค ในยุโรปเลยก็ว่าได้ ด้วยผลงานที่มีคุณภาพ และมีความเป็นตัวตนของเขา สร้างให้เขามีชื่อเสียงมาจนทุกวันนี้

เมื่อช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 นิคกี้ได้ย้ายไปอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน แล้วเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา นิคกี้เคยกล่าวไว้ว่า เขาได้พยายามสร้างตัวเขาอยู่ตลอดเวลา เขาภูมิใจทุกครั้งที่เขาได้พัฒนาฝีมือ ทำทุกอย่างที่เขามีความสุข เขาไม่ได้คาดหวังว่าผลงานของเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่เขาเพียงภูมิใจในสิ่งที่เขาทำ ว่าเขาได้ทำมันอย่างสุดฝีมือแล้ว เท่านั้นก็เป็นพอ